วันนี้ในอดีตเมื่อ 36 ปีมาแล้ว ในพ.ศ.2528 คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ“คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนางานสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ให้กำหนดวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็น“วันคล้ายวันพระราชสมภพของสม

วันนี้ในอดีตเมื่อ 36 ปีมาแล้ว ในพ.ศ.2528 คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ“คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนางานสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ให้กำหนดวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็น“วันคล้ายวันพระราชสมภพของสม
วันที่ 21 OCT 2021 | ผู้เข้าชม 1,963 ครั้ง | โดย กลุ่มประชาสัมพันธ์/กลุ่มอำนวยการอธิบดี

      วันนี้ในอดีตเมื่อ 36 ปีมาแล้ว ในพ.ศ.2528 คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ“คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนางานสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ให้กำหนดวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็น“วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จย่า”เป็น“วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ด้วยเหตุผลที่ว่าพระองค์ทรงอุทิศพระวรกายและเวลา เพื่อประโยชน์ให้บังเกิดแก่ประชาชนตลอดมา โดยมิได้ทรงเห็นแก่ความเหนื่อยยาก สมควรเป็นปูชนียบุคคลที่นักสังคมสงเคราะห์ควรถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานของตนต่อไป
          วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ภาครัฐบาลและภาคเอกชน จึงได้ร่วมกันจัดงานแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ“สมเด็จย่า” ที่ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าโดยไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา
         การสังคมสงเคราะห์คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้ทุกคนอยู่ในสังคมไทย ได้อย่างมีความสุขและให้ทุกคนมีความสามารถ รวมถึงพัฒนาสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าด้วย
        การสังคมสงเคราะห์มีในประเทศไทยเป็นเวลานานมาแล้ว สมัยก่อนนี้“วัด” เป็นศูนย์กลางของการสังคมสงเคราะห์ ปัจจุบันนี้มีทั้งภาครัฐบาล และภาคเอกชน ทางฝ่ายรัฐนั้นมีหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบเกี่ยวกับความผาสุกของประชาชนชาวไทย อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น

         สำหรับพระมหากรุณาธิคุณของ “สมเด็จย่า” ในด้านการสังคมสงเคราะห์ที่ทรงมีต่อผู้สูงอายุนั้นมีมากมายหลายประการ โดยเมื่อวันที่ 1  กันยายน พ.ศ. 2510 หรือเมื่อกว่า 54 ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฏราชกุมาร (รัชกาลที่ 10 ในปัจจุบัน) ได้เสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์และจารึกพระอักษรที่แท่นศิลาฤกษ์ ณ สถานสงเคราะห์คนชราภาคตะวันออก ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์แห่งแรกของภาคตะวันออกซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อให้บริการในด้านสังคมสงเคราะห์กับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาทางสังคมในด้านต่างๆ โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างราว 7 เดือนเศษ และเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2511 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฏราชกุมาร (รัชกาลที่ 10 ในปัจจุบัน) เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดแพรคลุมป้าย ณ อาคารที่ทำการสถานสงเคราะห์คนชราภาคตะวันออก และทรงปลูกต้นไม้ (ต้นราชพฤกษ์) บริเวณหน้าอาคารที่ทำการ ซึ่งสถานสงเคราะห์ฯ ดังกล่าวได้เปิดให้บริการในด้านการสังคมสงเคราะห์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันคือ “ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี” สังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

คลังภาพ