พม. โดยกรม ผส. เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเพื่อขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2564

พม. โดยกรม ผส. เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเพื่อขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2564
วันที่ 21 APR 2022 | ผู้เข้าชม 461 ครั้ง | โดย กลุ่มประชาสัมพันธ์/กลุ่มอำนวยการอธิบดี

พม. โดยกรม ผส. เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเพื่อขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2565

วันพฤหัสบดี ที่ 21 เมษายน 2565 เวลา เวลา 09.00 น. กรมกิจการผู้สูงอายุ จัดประชุมเพื่อขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2564 ในวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมโป๊ยเซียน 705 ทรัพย์เจริญสุข ชั้น 7 กรมกิจการผู้สูงอายุ โดยมีนางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2564 ประเด็นที่ 1 การเสริมทักษะอาชีพใหม่หรืออาชีพทางเลือกและรายได้ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และประเด็นที่ 2 ระบบและกลไกการบูรณาการบริการสังคมและสุขภาพเพื่อการพัฒนาผู้สูงอายุไทย ซึ่งในประเด็นที่ 2 มีพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น บุรีรัมย์ กาญจนบุรี ภูเก็ต ตรัง และกรุงเทพมหานคร โดยมีวิทยากรร่วมบรรยายเพื่อการขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2564 ประกอบด้วย นางกรรณิการ์ บันเทิงจิตร บรรยาย เรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนมติสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี 2564” ศาสตราจารย์ศศิพัฒน์ ยอดเพชร บรรยาย เรื่อง “แนวคิดและหลักการการบูรณาการบริการสังคมและสุขภาพ” และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฏฐพัชร สโรบล บรรยาย เรื่อง “แนวทางการศึกษาการถอดบทเรียนตัวแบบบูรณาการนโยบายและแผน”

ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นางศิริลักษณ์ มีมาก ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่กรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมด้านผู้สูงอายุ จังหวัดชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กรมการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ชมรมผู้สูงอายุ สำนักพัฒนาสังคมกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตทวีวัฒนา ศูนย์ช่วยเหลือสังคมชุมชนหมู่บ้านร่วมเกื้อ และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 85 คน