เส้นทางอาชีพกับกองทุนผู้สูงอายุ คุณลุงสุทิน เลขมาศ อายุ 70 ปี ประกอบอาชีพค้าขายกาแฟโบราณ และน้ำชงต่าง ๆ เคหะรามอินทรา เขตบางเขน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ร้านขายน้ำชงโบราณ มีมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมร้านน้ำประเภทนี้ถึงอยู่กับคนไทยทุกยุค ทุกสมัย นั่นก็เพราะว่า เป็นร้านน้ำที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่องของรสชาติแบบโบราณ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ล้วนให้ความนิยมร้านน้ำชงโบราณจำนวนมาก แถมยังสามารถสร้างรายได้ดีอีกด้วย เหมาะสำหรับนำมาเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะเป็นอาชีพที่ไม่เหนื่อย และได้พบปะผู้คนมากมาย ทำให้ผู้สูงอายุไม่เหงา
ลุงสุทิน เลขมาศ อายุ 70 ปี ประกอบอาชีพค้าขายกาแฟโบราณ และน้ำชงต่าง ๆ เคหะรามอินทรา เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ดั่งเดิมเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ย้ายมากรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 และเริ่มค้าขายกาแฟตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2516 สูตรในการทำกาแฟโบราณ และน้ำชงต่าง ๆ คุณลุงได้เรียนรู้มาจากคุณป้า ซึ่งรสชาติกาแฟโบราณของคุณลุงจะมีรสชาติที่เข้มข้น ไม่หวานมาก ใส่น้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะ
เมื่อก่อนคุณลุงประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ที่ริเริ่มค้าขายกาแฟเนื่องจากเป็นงานที่ไม่เหนื่อยมาก คุณลุงเล่าว่า สถานที่แรกที่ได้ขายกาแฟขายดีมาก เนื่องจากคุณลุงเปิดร้านขายของชำ ค้าขายกาแฟ และน้ำชงต่าง ๆ จึงทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ช่วงเย็นจะมีลูกค้าวัยทำงานมานั่งทานที่ร้านจนถึงประมาณ 02.00 น. ทำให้ร่ายกายของคุณลุงเหนื่อยล้า ประจวบเหมาะกับน้องสาวมีพื้นที่บริเวณหน้าบ้าน สามารถค้าขายกาแฟได้ จึงย้ายจากร้านเดิม มาอยู่ที่เคหะรามอินทราแห่งนี้ ถึงแม้ว่าลูกค้าจะไม่เยอะเท่าร้านเดิม แต่คุณลุงมีความสุข เพราะว่าจากร่ายกายได้พักผ่อน และได้ประกอบอาชีพที่รัก และร่างกายไม่หักโหมเกินไป
ปัจจุบันคุณลุงมีปัญหาสุขภาพ เข้ารับการผ่าตัดลิ้นไปครึ่งซีก และรับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2 เดือน จึงสามารถกลับมาประกอบอาชีพต่อไปได้ จากการที่คุณลุงผ่าตัดลิ้น ทำให้การออกเสียงของคุณลุงไม่ชัดถ่อยชัดคำ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อกำลังใจในการประกอบอาชีพแต่อย่างใด คุณลุงมีความสุขจากการค้าขายกาแฟโบราณ ได้พบปะพูดคุยกับลูกค้า ทำให้คุณลุงไม่เหงา
คุณลุงพักอาศัยอยู่กับภรรยา 2 คน ภรรยามีอาชีพประจำ ส่วนอาชีพค้าขายกาแฟโบราณคุณลุงประกอบอาชีพนี้เพียงคนเดียว ไม่มีผู้ช่วย คุณลุงเป็นคนขยัน อัธยาศัยดี ถึงมีกลุ่มลูกค้าประจำมาอุดหนุนคุณลุงอยู่เสมอ จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ยอดขายต่อวันลดน้อยลงมาก จากที่คุณลุงออมเงินส่งคืนกองทุนผู้สูงอายุ เดือนละประมาณ 2,000 บาท ตอนนี้สามารถส่งคืนได้เดือนละ 1,000 บาท เนื่องจากค้าขายไม่ดีเหมือนแต่ก่อน
ร้านของคุณลุงเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. เมนูภายในร้านได้แก่ กาแฟโบราณ ชาเย็น นมเย็น โอเลี้ยง เป็นต้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่แก้วละ 25 บาท โดยลูกค้าประจำจะเป็นคนในพื้นที่ และลูกค้าที่เคยได้ลิ้มลองร้านของคุณลุง ก็จะกลับมาอุดหนุนเป็นประจำ คุณลุงมีรายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 500 บาท หากลูกค้าต้องการให้คุณลุงนำน้ำไปส่งให้ ในบริเวณไม่ไกลจากร้านมาก คุณลุงจะปั่นจักรยานไปส่งให้ถึงที่ ถือเป็นการออกกำลังกายของคุณลุงในทุก ๆ วัน
คุณลุงเล่าอย่างภาคภูมิใจว่า เพราะอาชีพค้าขายกาแฟโบราณนี้ ทำให้สามารถส่งเสียลูกเรียนจบสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณลุงต้องขอขอบคุณทางกองทุนผู้สูงอายุ ที่สนับสนุนให้ผู้สูงอย่างคุณลุงได้มีทุนในการประกอบอาชีพและไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินนอกระบบมาลงทุนให้เกิดหนี้สิน เงินกู้ยืมจากทางกองทุนผู้สูงอายุมีประโยชน์มาก
สุดท้ายนี้คุณลุงฝากถึงผู้สูงอายุที่ต้องการที่จะเข้ามากู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพของกองทุนผู้สูงอายุว่า ไม่ว่าเงินกู้ยืมที่ทางกองทุนผู้สูงอายุสนับสนุนจะได้รับจะมากหรือน้อย ก็สามารถนำมาพัฒนาอาชีพได้ทั้งนั้น หากเราไม่มีเงินทุน ต้องอาศัยเงินกู้ยืมจากกองทุนผู้สูงอายุดีที่สุด และที่สำคัญต้องส่งเงินคืนกลับกองทุนผู้สูงอายุตรงตามที่กำหนดในสัญญา ซึ่งเงินกู้ยืมนี้ หากเราได้มาแล้วลงมือทำ นั่นถึงเรียกว่ามีประโยชน์
ภาพ/เขียน : กลุ่มงานวิชาการและคณะกรรมการ
กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ