ย้ายภูมิลำเนาจะขอรับเงินเบี้ยยังชีพคนชรากับภูมิลำเนาเดิมจนครบปีงบประมาณเดิมต้องทำเช่นไรครับ |
|
From นายชวนชัย ตันธวรา
วันที่ : 7 พ.ย. 2561 เวลา 12:54
|
ขอเรียนชี้แจงว่า การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ยึดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ หมวด ๒ ขั้นตอนการยื่นคำขอ ข้อ ๘ ผู้สูงอายุผู้ใดที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลําเนาอยู่ ต่อมาผู้สูงอายุนั้นได้ย้ายภูมิลําเนาไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น |
|
From : อติพร เพ็งปาน
วันที่ : 12 พ.ย. 2561 เวลา 17:02
|
สวัสดีคะ ขออนุญาตสอบถาม แล้วถ้าแจ้งหลังเดือนพฤศจิกายน จะเป็นยังไงคะ
|
|
From ณัญฐิยา วงษ์เหลา
วันที่ : 6 พ.ย. 2562 เวลา 10:14
|
อยากทราบเหมือนกันค่ะ พอดีว่าคุณแม่ย้ายทะเบียนบ้านเดือนพฤศจิกายน 2562 จากประเวศ มาคลองหลวง แล้วไม่ได้ไปแจ้ง เงินผู้สูงอายุเลยไม่เข้าบัญชี ต้องทำอย่างไรบ้างคะ
|
|
From ชนทิชา กล่อมศิริ
วันที่ : 16 ธ.ค. 2562 เวลา 15:02
|
ทำไมระบบราชการไม่สามารถตัดจ่ายงบตามผู้ย้ายทะเบัยนบ้านได้ ทั้งที่มีระบบคอมพิสเตอร์ที่ทันสมัยมาก ทำให้ราษฏรต้องเสียเวลามาดำเนินการ ซ้ำซ้อน เวลาแจ้งย้ายภูมิลำเนา ก็ควร ย้ายบัญชีการจ่ายเงินแบบอัตโนมัติจึงจะถูกต้อง
|
|
From ชัยวัฒน์ กุลธีรพงศํธร
วันที่ : 4 ก.ค. 2563 เวลา 14:34
|
รบกวนสอบถามคะ จะย้ายแม่เข้าทะเบียนบ้านที่ระยอง จากถิ่นเดิมคือสุรินทร์์ ทำไหมทำไม่ได้คะ เพื่อสะดวกเงินยังชีพผูู่สูงอายุคะ |
|
From ปรียาดา ประทุมแก้ว
วันที่ : 17 ก.ย. 2563 เวลา 10:17
|
ระบบ ห่วย คนมีชื่อในทะเบียนราช อยุ่แล้ว ยังมาให้ทำเสียเวลาเสียเงินอีก ห่วยทั้งคนทั้งระบบ เปลืองภาษี |
|
From K
วันที่ : 18 ก.ย. 2563 เวลา 20:15
|
รบกวนสอบถามหน่อยครับ ถ้าผู้สูงอายุ ไม่ได้อาศัยอยู่ตามภูมิลำเนาในบัตรประชาชน ต้องไปแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบมั้ยครับ |
|
From สุภเวช ํ
วันที่ : 10 ต.ค. 2564 เวลา 17:45
|
เท่าที่อ่านมานะคะ เมื่อย้ายที่อยู่ใหม่แล้ว"ต้องทำเรื่องขอรับเบี้ยยังชีพสว.กับที่ใหม่"ด้วยค่ะ ถ้าไม่ลงทะเบียนกับที่ใหม่เบี้ยยังชีพจะไม่ตามมาถือว่าสละสิทธิ์ กำลังจะย้ายอยู่พอดี หวังว่าจะเข้าใจถูก |
|
From นงนุช เหรียญวิจิตร์
วันที่ : 3 พ.ย. 2564 เวลา 15:37
|
คุณแม่ก็ย้ายที่อยู่ใหม่ปี64ค่ะ ยื่นเรื่องที่ใหม่ภายใน กย.64 แต่เบี้ยไม่เข้าตั้งแต่ ตค. ที่ใหม่แจ้งว่าที่เก่าต้องจ่าย แต่ที่เก่าก็บอกว่าไม่จ่ายแล้ว แบบนี้ประชาชนต้องทำไงค่ะ..คนชราคือคนแก่เดินทางไปไหนก็ลำบากเห็นใจประชาชนด้วยเถอะค่ะ ส่วนไหนจะต้องจ่าย |
|
From ประชาชนคนนึง
วันที่ : 9 พ.ย. 2564 เวลา 16:08
|
ชาวบ้านที่ไหนมีใครรู้บ้างว่าต้องมาแจ้ง อบต. เพราะใน กทม.ไม่มี พอย้ายมาอยู่ ตจว.ก็ยังได้รับเงินทุกเดือนจนสิ้นปีงบประมาณเงินไม่ออกก็คิดว่าคงเหมือนบางปีที่ออกช้ารอถึงธันวาเงินยังไม่เข้าถึงได้พยายามหาข้อมูลจึงได้รู้บอกตรงๆห่วยแตกมากทั้งที่ระบบทะเบียนราษฎร์ใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันหมดแล้วแทนที่จะโอนเงินมาตามทะเบียนราษฎร์ก็จบประชาชนก็ไม่ต้องเสียสิทธิ์และเสียเวลา เรื่องง่ายๆแค่นี้คิดไม่ได้ทำไม่เป็นเสียดายงบประมาณประเทศจริงๆที่จ้างผู้บริหารแบบนี้ครับ |
|
From ฉลวย มีถาวร
วันที่ : 10 ธ.ค. 2564 เวลา 11:01
|
มาลัย |
|
From เพ็ชรแก้ว
วันที่ : 10 ก.ย. 2565 เวลา 16:20
|
ย้ายแล้วไม่ได้เงินย้อนหลังด้วยเงินที่จะได้ทุกเดือนกลับหายไปเหมือนเริ่มต้นใหม่...คนอก่จะกินอะไรละคะย้ายที่ยุก้อต้องมาย้ายมี่ต้นทางย้ายปลายทางไม่ได้ระบบคือแย่มากเหมือนโกวเงิน |
|
From รัตนากร
วันที่ : 11 ต.ค. 2565 เวลา 18:01
|
ถ้าผู้สูงอายุย้ายทะเบียนบ้านแต่ในจังหวัดเดิมที่แจ้งจะต้องไปแจ้งย้ายไหมคะ |
|
From อรพรรณ หาญจันทร์
วันที่ : 16 พ.ย. 2565 เวลา 06:24
|
ระบบทะเบียนราษฏร์ กับระบบจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องเอามาผูกกัน เนื่องจาก การไปลงะทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพ ณ สำนักงานเขต หรือ เทศบาล คือการขอลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิให้ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ควรทำข้ามเขตที่ไม่ตรงกับทะเบียนราษฏร์ได้ เพราะบางกรณี ผู้สูงอายุ อาจมีภูมิลำเนาอยู่ ต่างจังหวัด แต่ เมื่อชราแล้ว จึงต้องมาอยู่กับลูก ให้ลูกดูแลที่ กรุงเทพ เพราะ ลูกๆนั้นทำงานที่กรุงเทพฯ ระบบการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ ควรทำแค่ป้องกันการลงทะเบียนซ้ำซ้อน กรณีผู้ไม่หวังดี ลงทะเบียน มากกว่า 1 เขต/เทศบาลเท่านั้น เพื่อป้องกันจ่ายเบี้ยซ้ำซ้อน |
|
From ไม่รู้ว่าชาตินี้ ระบบราชการจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้ไหม
วันที่ : 8 ธ.ค. 2565 เวลา 11:36
|
ที่กล่าวมาเห็นด้วย สงสารผู้สูงอายุ อยู่ชลบท3เดือนออกมาเบิกครั้ง หากออกไปเบิกทุกเดือนค่ารถค่าใช้จ่ายก็หลายบาท พอย้ายลืมนึกไปว่าต้องแจ้งด้วย พอรู้อีกที อบต บอกว่าหมดเวลาแล้ว ปีถัดไปไม่ได้รับเงิน ที่เขาพูดราชการทำเรื่องให้ผู้สูงอายุสดวกไม่ได้หรือ เงิน600 สำหรับผู้ไม่มีรายได้มันก็มาก อีกทั้งไม่ได้ทั้งสามีภรรยา เศร้า |
|
From นายทศพร เมืองสุวรรณ
วันที่ : 28 มิ.ย. 2566 เวลา 19:33
|