เปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รมว.พม เปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พร้อมเชิญชวนบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงเพื่อผู้สูงอายุที่มีรายได้น

เปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  รมว.พม เปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พร้อมเชิญชวนบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงเพื่อผู้สูงอายุที่มีรายได้น
วันที่ 27 พ.ย. 2561 | ผู้เข้าชม 2,921 ครั้ง

เปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

รมว.พม เปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พร้อมเชิญชวนบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงเพื่อผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและด้อยโอกาส

 

วันอังคารที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น. พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดตัวโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ภายใต้แนวคิด “การให้...เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” และพิธีมอบเหรียญเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตรแก่ผู้สูงอายุที่บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ณ ห้องประชุม ชั้น ๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

 

พลเอก อนันตพร กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและด้อยโอกาส โดยการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ เรื่อง กำหนดแหล่งเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุเพิ่มเติม ๒ แหล่ง คือ การเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าสุราและยาสูบในอัตราร้อยละ ๒ แต่ไม่เกิน ๔,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี และการเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ผ่านการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน ได้รับเงินเพิ่มเดือนละ ๑๐๐ บาท จากเดิมได้รับ ๓๐๐ บาท รวมเป็น ๔๐๐ บาท และผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินกว่า ๓๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน แต่ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาทต่อปี ได้รับเงินเพิ่มเดือนละ ๕๐ บาท จากเดิมได้รับ ๒๐๐ บาท รวมเป็น ๒๕๐ บาท โดยเริ่มมีการจ่ายเงินดังกล่าวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ในทุกวันที่ ๑๕ ของเดือน

 

พลเอก อนันตพร กล่าวต่อไปว่า ด้วย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เห็นชอบให้ดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นมา เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพิ่มขึ้นในการดำรงชีพ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ จำนวน ๖๕๑ คน รวมทั้งบุคคลทั่วไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒,๕๖๕,๙๖๐.๗๙ บาท ทั้งนี้ การบริจาคเบี้ยยังชีพเข้ากองทุนผู้สูงอายุยังมีจำนวนน้อย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) จึงได้ดำเนินโครงการคาราวานประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ รับทราบ และเข้ามามีส่วนร่วมในการบริจาคเงินเพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขับเคลื่อนคาราวานประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศทั้ง ๔ ภาค ประกอบด้วย ๑) ภาคกลาง จัดกิจกรรม ณ สวนสาธารณะศรีเมือง อ.เมือง จ.ระยอง ในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๒) ภาคะวันออกเฉียงเหนือ จัดกิจกรรม ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ 3) ภาคใต้ จัดกิจกรรม ณ สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ ๙๕ อ.เมือง จ.ตรัง ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ และ ๔) ภาคเหนือ จัดกิจกรรม ณ สวนสาธารณะหนองบวกหาด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๑

 

“ขอเชิญชวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและมีความประสงค์ร่วมบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและด้อยโอกาส สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไปยื่นได้ที่หน่วยงานที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของท่าน รวมถึงธนาคารในสังกัดกระทรวงการคลัง อาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นต้น โดยท่านจะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ พร้อมการหักลดหย่อนภาษี ๑ เท่า ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ผส. หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๓๕๔-๖๑๐๐ หรือ เว็บไซต์ www.dop.go.th หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน ๑๓๐๐ บริการฟรี ๒๔ ชั่วโมง” พลเอก อนันตพร กล่าวในตอนท้าย

 

ติดตามข่าวสารของกรมกิจการผู้สูงอายุ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของผู้สูงอายุ ได้ที่ http://www.dop.go.th/th หรือ https://www.facebook.com/OlderDOP

คลังภาพ