เปิดงานวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2562 พร้อมมอบโล่เกียรติคุณและเกียรติบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๖๒

เปิดงานวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2562 พร้อมมอบโล่เกียรติคุณและเกียรติบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๖๒
วันที่ 20 ก.ย. 2562 | ผู้เข้าชม 3,769 ครั้ง

 

 

       วันศุกร์ ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ เปิดงานวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2562 พร้อมมอบโล่เกียรติคุณและเกียรติบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี ๒๕๖๒ จำนวน ๑๑ สาขา รวมทั้งสิ้น ๑๒๑ ราย โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายจุติ ไกรฤกษ์ ) มอบหนังสือวันเยาวชนแห่งชาติ เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติและผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๒ แด่ผู้แทนพระองค์ พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายปรเมธี วิมลศิริ) กล่าวรายงาน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (นางไพรวรรณ พลวัน) คณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน

       นายจุติ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ (UNITED NATIONS) ได้ประกาศให้ปี ๒๕๒๘ เป็นปีเยาวชนสากลและขอให้                       ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลอง ภายใต้คำขวัญ “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” (Participation, Development and Peace) เพื่อมุ่งเน้นให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองในการเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต และมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม  สำหรับประเทศไทย สืบเนื่องจากวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร มหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ที่ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ ทางคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๒๘ กำหนดให้วันที่ ๒๐ กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชนจึงได้ดำเนินการจัดงานวันเยาวชนแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ส่งผลให้มีความเจริญเติบโตสมวัยและ

มีศักยภาพในการพัฒนาตนเองทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา และมีความสามารถในการดำรงชีวิตตามกฎระเบียบของสังคม อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนของสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนและเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเยาวชนต่อไป

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับงานวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๒ ภายใต้หัวข้อ "จิตอาสา” ได้มีการพิจารณาคัดเลือก

เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน  เพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ทำคุณงามความดี  อันเป็นผู้มีความสามารถและเป็นแบบอย่างที่ดี ด้วยสภาวะผู้นำที่เข้มแข็งมากที่สามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมี ผู้ได้รับคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น ๑๒๑ ราย แบ่งออกเป็น ๑๑ สาขา ได้แก่ ๑) สาขากฎหมายและการปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน  ๒) สาขาการศึกษาและวิชาการ ๓) สาขากีฬาและนันทนาการ ๔) สาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี ๕) สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๖) สาขาพัฒนาเยาวชนบำเพ็ญประโยชน์ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน ๗) สาขาศิลปวัฒนธรรม ๘) สาขาศีลธรรม จริยธรรม และคุณธรรม ๙) สาขาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ๑๐) สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชน ที่ป้องกันปัญหาสังคม และ ๑๑) สาขาอาชีพ  ซึ่งแบ่งเป็นเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ๘๐ ราย กลุ่มเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ๑๙ กลุ่ม บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ๑๕ ราย องค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ๗ ราย อาทิ ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น นายอเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์ สาขาสื่อมวลชน เพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม  เช่น นางสาวหนึ่งธิดา โสภณ (หนูนา)  นางกรุณา บัวคำศรี และนายกำภู ภูริภูวดล เป็นต้น

“ทั้งนี้ ขอให้เยาวชนทั่วประเทศได้แสดงพลังของตนเอง เพื่อให้ชุมชนและสังคมได้เห็นถึงความสำคัญของวัยเยาวชน

อันเป็นวัยที่มีพลัง กล้าคิด กล้าแสดงออก พร้อมที่จะร่วมพัฒนาศักยภาพและแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งกระทรวง พม. พร้อมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ตามคำขวัญวันเยาวชนแห่งชาติที่ว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” นายจุติ กล่าวในตอนท้าย

คลังภาพ