โรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองเกิดจากอะไร
โรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองเกิดจากอะไร
โรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE (Systemic Lupus Erythematosus, SLE) เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำลายเนื้อเยื่อร่างกายของตนเอง แต่สาเหตุที่ภูมิคุ้มกันทำงานผิดพลาดนั้นยังไม่แน่ชัด แต่ยังพอสามารถระบุพฤติกรรมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคพุ่มพวงอยู่หลายสาเหตุ โรคนี้ยังต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานและเคร่งครัดเนื่องจากอาการที่กำเริบอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคพุ่มพวง
- เกิดจากการใช้ยา และสารเคมีต่าง ๆ หรือยาประเภทควบคุมความดันเลือด ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น
- เกิดจากฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในบางครั้งจะส่งผลด้วย เช่น ช่วงตั้งครรภ์หรือช่วงที่เติบโตในแต่ละวัย เป็นต้น
- การถ่ายทอดพันธุกรรม โรคหรืออาการบางชนิดที่เกิดในวงเครือญาติอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพุ่มพวงได้
- ปฏิกิริยาต่อแสงแดด สำหรับคนที่มีผิวหนังไวต่อแสงแดดจะทำให้เกิดผลข้างเคียงจากอาการแพ้ดังกล่าวได้
ทำไมจึงเรียกว่าโรคพุ่มพวง
โรคแพ้ภูมิตัวเองเป็นชื่อในเชิงทางการ แต่โดยทั่วไปแล้วเรามักจะเรียกว่า “โรคพุ่มพวง” ซึ่งเรียกตามกันมาจากชื่อของนักร้องไทยชื่อดังในอดีต “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ป่วยเป็นโรคนี้ และเสียชีวิตลงในเวลานั้น ทำให้หลายคนจำชื่อโรคของพุ่มพวงมาจนถึงปัจจุบัน
อาการของโรคพุ่มพวง
อาการของโรคนี้มีอยู่หลายระดับ ถึงแม้จะรักษาได้แต่ในผู้ป่วยบางรายถึงแม้จะรักษาไปแล้วอาการจะยังคงอยู่แบบถาวร โดยอาการดังกล่าวมีอยู่หลายแบบดังนี้
- มีการตรวจพบแอนติบอดีต่อดีเอ็นเอ (anti-dsDNA) หรือการตรวจพบแอนติฟอสโฟไลปิดแอนติบอดี หรือการตรวจเลือดพบผลบวกปลอมต่อการตรวจซิฟิลิส
- หากมีการตรวจเลือดจะพบแอนตินิวเคลียร์แอนติบอดี (antinuclear antibody)
- ผื่นผิวหนังบริเวณใบหน้า ใบหู แขนขา และลำตัว
- มีผื่นบริเวณใบหน้าเป็นรูปผีเสื้อ
- อาการซีด จากเม็ดเลือดขาว หรือเกล็ดเลือดต่ำ
- หากโดนแดดจะมีผื่นผิวหนังแดงอย่างรุนแรง
- เกิดอาการอักเสบที่เยื่อหุ้มปอดหรือหัวใจหรือเยื่อหุ้มสมอง
- ไตอักเสบ
- มีแผลในปาก
- มีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น อาการชัก เป็นต้น
- ข้ออักเสบ
หากพบว่าตนเองมีอาการดังกล่าวตั้งแต่ 4 ข้อขึ้นไปอาจเป็นสัญญาณว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคพุ่มพวงได้ ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่นอน
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคพุ่มพวง
- หัวใจและสมอง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง หรือความจำเสื่อม เป็นต้น
- ปัญหาทางโลหิต เช่น ภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น
นอกจากนี้ยังสามารถเกิดปัญหากับอวัยวะอื่น ๆ ได้ เช่น การอักเสบที่ไต ภาวะไตวาย ไปจนถึงเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นได้ตั้งแต่อาการที่รุนแรงน้อยไปจนถึงรุนแรงมากแล้วแต่บุคคล และปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย
โรคพุ่มพวงรักษาได้ไหม
โรคนี้สามารถรักษาได้แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควร อีกทั้งยังต้องติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ร่วมกับการดูแลตนเอง ดังนี้
- อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ในการติดตามอาการ และการเฝ้าระวังอาการที่กำเริบถือว่าสำคัญอย่างมากเนื่องจากบางอาการหากอาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคพุ่มพวงป้องกันอย่างไร
โรคนี้เป็นโรคร้ายที่ไม่ทราบสาเหตุของการเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างชัดเจน ทำให้การป้องกันไม่สามารถทำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรายังสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคได้อยู่ ถือเป็นการป้องกันที่เราพอจะทำได้เพื่อให้ห่างไกลโรคนี้
ด้วยการป้องกันและรักษาอย่างยากลำบากการดูแลตนเองของผู้ป่วยจึงเป็นสิ่งสำคัญ การมีวินัยตลอดการรักษาจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จได้
อ้างอิง https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/detail-SLE