ด้วยองค์ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพและความสามารถทางการแพทย์ที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก ประกอบกับคู่แต่งงานในปัจจุบันไม่นิยมมีลูกเท่าไรนัก ทำให้สัดส่วนผู้สูงอายุในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้นกระทั่งเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) และจากสถิติของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ยังได้ประเมินว่าในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยจะมีจำนวนประชากรสูงวัยสูงถึง 25% ของประชากรทั้งหมดและเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ หรือ Aged Society คำถามคือ แล้วเรื่องดังกล่าวสัมพันธ์กับประเทศไทยอย่างไร ?

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเมื่อผู้สูงอายุเพิ่มจำนวนมากขึ้น สวนทางกับประชากรวัยรุ่นที่เกิดขึ้นน้อยลง ไทยเรามีแนวโน้มจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานวัยหนุ่มสาว ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างมาก แต่ในขณะเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุยังส่งผลให้เกิดพื้นที่ว่างทางการตลาดอีกมากมาย และนับเป็นเวทีการลงทุนที่น่าจับตามอง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ดูเหมือนจะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับสังคมสูงวัยทั่วโลก เหล่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มักมองหาทำเลที่เหมาะสมในการตั้งคอมมูนิตี้สำหรับผู้สูงอายุเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณ ออกแบบบ้านพักอาศัยให้มีอุปกรณ์ช่วยเหลืออย่างครบครัน ซึ่งจุดนี้เองที่จะทำให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านเติบโตขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันในแต่ละคอมมูนิตี้ยังสามารถเปิดให้บริการทางการแพทย์สำหรับดูแลผู้สูงอายุในยามฉุกเฉิน รวมถึงร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ออกกำลังกายที่เหมาะกับร่างกายคนวัยเกษียณอีกด้วย

ธุรกิจด้านการวางแผนทางการเงินหลังเกษียณ

ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะเก็บหอมรอมริบตั้งแต่วัยทำงาน เพื่อใช้ดูแลตัวเองหลังเกษียณโดยไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลาน ดังนั้นการเก็บออมเงินตั้งแต่วัยทำงานจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ธุรกิจวางแผนการเงินจึงเป็นอีกธุรกิจที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งด้านการให้คำปรึกษา การลงทุนแบบกองทุนรวมระยะยาว หรือบัญชีเงินฝากที่พ่วงประกันสุขภาพเอาไว้ เป็นต้น

ธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุ

สุขภาพของผู้สูงอายุคือ สิ่งจำเป็นระดับสูงสุดในการมีชีวิตที่ยืนยาวและห่างไกลจากโรคร้าย หากมีการเปิดคอร์สบริการดูแลสุขภาพที่มีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการดูแลสุขภาพทั่วไป หรือการรักษาอาการเจ็บป่วย ตลอดจนบริการประเภทโฮมแคร์ที่มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาคอยให้การดูแลถึงบ้าน จะช่วยให้ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหรืออาการเจ็บป่วยเฉพาะสามารถพักอยู่กับบ้าน แต่ยังได้รับการรักษามาตรฐานเดียวกับสถานพยาบาล เพราะความอบอุ่นจากคนในครอบครัวจะช่วยให้สุขภาพจิตของผู้สูงอายุดีขึ้นด้วย

ธุรกิจอาหารสุขภาพ

คำกล่าวว่า You are what you eat คือคำเปรียบเปรยที่ไม่เกินจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะกับช่วงวัยจะช่วยให้ชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น ฉะนั้น ธุรกิจอาหารสุขภาพจะเป็นอีกธุรกิจที่เติบโตได้อีกมากในยุคสมัยที่คนทุกเพศทุกวัยหันมาใส่ใจตัวเองด้วยอาหารที่ดี ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่ามีธุรกิจประเภทที่คอยจัดการเรื่องอาหารให้แก่ผู้บริโภคตามมื้ออาหารเช้า กลางวัน เย็น และเดลิเวอรี่ให้ถึงหน้าบ้าน ซึ่งจุดนี้เองที่ส่งผลไปถึงธุรกิจบริการส่งอาหารตามบ้านให้เติบโตขึ้นไปพร้อมกัน

ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ในวัยทำงานการออกเดินทางท่องเที่ยวถือเป็นการเติมพลังชีวิตได้ไม่น้อย สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุก็สามารถสร้างสุขภาพดีได้จากการท่องเที่ยวเช่นกัน ในจุดนี้ หากธุรกิจนำเที่ยวเล็งเห็นโอกาส สามารถจัดเส้นทางนำเที่ยวไปยังสถานที่ที่เหมาะกับร่างกายของผู้สูงอายุ อย่างทริปท่องเที่ยวที่ไม่ต้องใช้พละกำลังในการเดินทางมากเกินไปนักและมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ไว้คอยบริการระหว่างทาง รวมทั้งในทริปนั้นอาจจะมีการจัดคอร์สนวดแผนไทย ฝึกโยคะ หรือการประคบสมุนไพรมาเป็นตัวชูโรง จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้อีกไม่น้อย

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และในท้ายที่สุด หากเจ้าของธุรกิจมีไอเดียสร้างสรรค์และหาหนทางนำธุรกิจตัวเองเข้าไปจับลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและยั่งยืนได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/aged-society-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87