เชื่อเหลือเกินครับว่าผู้ที่ลงทุนในตลาดเงินหรือตลาดหุ้นนั้นคงอยากจะประสบความสำเร็จกันก่อนมีอายุมากทั้งสิ้น ปัจจุบันเริ่มมีนักลงทุนหน้าใหม่ที่มีอายุน้อยเข้ามาสู้แวดวงการลงทุนมากขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่มีอายุมาก คนที่อยู่ในวัยเกษียณหรือใกล้เกษียณก็สามารถลงทุนได้เช่นกันครับเพียงแต่ต้องมีการวางแผนให้รอบคอบเพื่อที่เงินที่เราเก็บสะสมมาทั้งชีวิตจะได้งอกเงยไม่หายไปโดยไม่เกิดประโยชน์ครับ

ในความเป็นจริงแล้วการจัดพอร์ตการลงทุนนั้นไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย แต่หากขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนและวัตถุประสงค์การลงทุนที่วางไว้เป็นหลักต่างหากแต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่สูงอายุหรือวัยเกษียณก็ควรที่จะมีหลักในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาวครับ

สำหรับการลงทุนของผู้ลงทุนในวัยเกษียณหรือใกล้เกษียณควรคำนึงถึงการกระจายความเสี่ยงที่เพียงพอ, ผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อและการจัดสัดส่วนการลงที่เหมาะสมกับตนเองซึ่งหากผู้ลงทุนสามารถควบคุมสิ่งดังกล่าวทั้งหมดนี้ได้ก็จะทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การกระจายความเสี่ยงสำหรับผู้ลงทุนในวัยสูงอายุควรจะต้องกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลายประเภทและในขณะเดียวกันก็จำเป็นที่จะต้องปิดโอกาสในการลงทุนที่ผิดพลาดน้อยที่สุดโดยควรจะลงทุนในกองทุนประเภทตราสารหนี้โดยสามารถลงทุนได้ทั้งกองทุนระยะสั้น กองทุนระยะกลาง และกองทุนระยะยาว ไม่ควรนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงอยู่บริษัทเดียว อีกทั้งไม่ควรที่จะนำเงินที่ได้หลังจากการเกษียณไม่ว่าจะเป็นเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญไปลงทุนในธุรกิจที่ตนไม่ถนัดหรือคุ้นเคยหรือไม่มีความเข้าใจหรือไม่ชำนาญเพราะอาจจะทำให้เงินจำนวนนั้นสูญไปได้

ส่วนในเรื่องของผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นให้เราสามารถแก้ปัญหาตัวนี้ได้ด้วยการลงทุนในทรัพย์สินบางประเภทที่สามารถเอาชนะภาวะเงินเฟ้อได้ซึ่งได้แก่การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนประเภทสินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ซึ่งในระยะสั้นนั้นอาจจะมีความผันผวนอยู่บ้างพอสมควรแต่ในระยะยาวทรัพย์สินกลุ่มนี้จะเป็นตัวเพิ่มผลตอบแทนให้กับเงินลงทุนโดยรวมได้

และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญสำหรับผู้ลงทุนวัยเกษียณก็คือการจัดสัดส่วนการลงทุนโดยสินทรัพย์หรือส่วนของการลงทุนที่มีความผันผวนนั้นมีหลักในการคิดคำนวณอยู่โดยการเอา 100 ไปหักด้วยอายุของผู้ลงทุนได้เท่าไหร่ให้ถือเป็นสัดส่วนในการลงทุนในการลงทุนหุ้นต่อมูลค่าของทรัพย์สินทั้งหมด เช่นหากเรามีอายุ 60 ปี นำไปลบกับ 100 จะได้ 40 ไอ้เจ้า 40 นี้ก็คือจำนวนที่เราต้องลงทุนในหุ้น ส่วนอีก 60 ที่เหลือนำไปลงทุนอื่นๆ เป็นต้น

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นหลักหรือกฎสำหรับผู้ที่คิดกำลังจะลงทุนในวัยเกษียณเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดมาใช้โดยไม่กระทบต่อเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิตแต่อย่างไรก็ตามดังเช่นทุกครั้งที่ผมกล่าวไว้การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งสิ้นครับ ดังนั้นหากไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็ไม่ควรที่จะลงทุน

ที่มา : https://happyaged.wordpress.com/2014/04/04/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB/