4 สาเหตุของการขายดี แต่ "เจ๊ง" ไม่เป็นท่า

4 สาเหตุของการขายดี แต่
วันที่ 23 ก.ค. 2567 | ผู้เข้าชม 559 ครั้ง | โดย กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ

แม้ว่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่สุดท้ายแล้ว เงินที่ควรจะได้กลับไม่มีอยู่เลย สาเหตุอยู่ที่การไม่รู้จักบริหารจัดการรายได้ที่เข้ามาอย่างเป็นระบบนั่นเอง เรามาลองดูกันว่าสาเหตุของการขายดีจนเจ๊ง เกิดจากอะไรได้บ้าง

     1.ไม่รู้ต้นทุนสินค้า

สาเหตุนี้เป็นสาเหตุใหญ่เลย เพราะถ้าเราไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้า เราก็จะไม่มีทางรู้ว่า ราคาสินค้าที่เราตั้งไว้จะสร้างกำไรต่อหน่วยให้แก่เราเท่าไหร่ และจะมีกำไรมากพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหรือไม่ แม้ว่าเราจะขายดีเท่าไหร่ แต่หากเรามีต้นทุนที่สูง โอกาสเจ๊งก็มีสูงเช่นกัน

     2.ไม่มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

ผู้ประกอบการ SME ขนาดเล็กโดยส่วนใหญ่มักจะละเลยเรื่องนี้ บางท่านไม่มีความรู้ด้านบัญชี บางท่านไม่มีเวลาทำเพราะขายดีมาก จึงคิดว่าไม่เป็นไรไว้ทำทีหลังก็ได้ แต่รู้ไหมว่า ถ้าเราไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ เราก็จะไม่รู้กระแสเงินสดของตนเอง สุดท้ายรายจ่ายอาจจะมากกว่ารายรับโดยที่เราไม่รู้ตัว

     3.ไม่มีการจัดสรรเงินที่ได้มา

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนการทำธุรกิจแบบไม่เป็นระบบ เพราะไม่มีการวางแผนและการจัดสรรรายรับกับรายจ่ายของบริษัท อยากจ่ายอยากซื้ออะไรก็ทำตามใจ ไม่บริหารจัดการให้เป็นส่วนๆ เช่น ค่าใช้จ่ายวัตถุดิบกี่ %, ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการกี่ %, เงินสดสำรองฉุกเฉินกี่ % เป็นต้น

     4.ไม่ดูแลสต็อกสินค้า ทำให้เกิดต้นทุนจม

อีกเรื่องที่มักเป็นปัญหาสำหรับ SME พอขายดีก็สั่งสินค้าหรือผลิตสินค้าเข้าคลังสินค้าจำนวนมาก โดยไม่ได้คิดเลยว่า ปริมาณสินค้าที่อยู่ในคลังมีจำนวนที่สอดคล้องกับยอดขายหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการเก็บข้อมูลสถิติการขายสินค้าในช่วงที่ผ่านมา เพื่อมาใช้ในการประเมินปริมาณของสินค้าที่จะสั่งหรือผลิตเข้ามาเก็บในสต๊อก สุดท้ายเมื่อมีสต๊อกสินค้ามากเกินไป นอกจากเงินจมแล้ว ถ้าสินค้าเสียหายก็จะกลายเป็นเงินที่สูญเปล่าไป

     หลายคนคงคิดว่า ขอให้ขายดีก่อนแล้วค่อยมาคิดจัดการกับระบบต่างๆ ในภายหลัง ซึ่งมันอาจจะไม่ทันการ เพราะนอกจากจะเสียแรงที่ลงไปฟรีๆ แล้วยังต้องเสียเงินที่เป็นรายได้อีกด้วย

ขอบพระคุณข้อมูลดี ๆ จาก : ชี้ทางรวย www.businessplus.co.th